พระราชวังต้องห้าม หรือ พระราชวังกู้กง (The Forbidden City) ถือเป็น Landmark แห่งกรุงปักกิ่ง มีอายุกว่า 600 ปี เป็นหนึ่งในมรดกโลกที่ได้รับการรับรองจาก Unesco ในอดีตเป็นพระราชวังที่ห้ามคนธรรมดาเข้า ปัจจุบันเปิดให้เข้าชม และเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์
Content นี้มีอะไรบ้าง
Introduction : The Forbidden City
พระราชวังต้องห้าม หรือ พระราชวังกู้กง ถ้าแปลตรงตัวตามอักษรจีน จะแปลว่า เมืองต้องห้ามสีม่วง เป็นพระราชวังเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 600 ปี ตั้งอยู่ใจกลางกรุงปักกิ่ง อยู่ทางทิศเหนือของจัตุรัสเทียนอันเหมิน เป็นพระราชวังหลวงมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง จนถึงราชวงศ์ชิง ในอดีตพระราชวังนี้จะเป็นเขตหวงห้าม ไม่ให้ประชาชนเข้า เพราะภายในเป็นที่ประทับของจักรพรรดิ นางสนม นางกำนัล ขันที และข้าหลวงที่คอยรับใช้เท่านั้น
พื้นที่ของพระราชวังต้องห้ามจะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 450 ไร่เลยทีเดียว ว่ากันว่าภายในพระราชวังนี้ มีห้องทั้งหมด 9999 ห้อง และยังมีพระที่นั่ง หอพระสมุด ห้องลับต่างๆ รวมถึงสวน และลานกว้าง ที่มีทางเดินเชื่อมถึงกัน
การเดินทาง
วิธีเดินทางมาที่ พระราชวังต้องห้าม หรือ พระราชวังกู้กง (The Forbidden City) มาได้ทั้งการเรียก Didi หรือจะนั่งรถไฟ Line 1 สถานี Tiananmen West หรือ Tiananmen East
การซื้อบัตรเข้า The Forbidden City
การซื้อตั๋วเข้าชมพระราชวังต้องห้าม สามารถทำได้หลายวิธี
จองตรงกับเว็บทางการ https://bookingticket.dpm.org.cn เป็นวิธีที่แนะนำที่สุด ในเว็บจะเปิดให้จองล่วงหน้า 7 วัน ถ้าเป็นช่วงวันหยุดเทศกาล วันหยุดของจีน วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ช่วงปิดเทอม การจองผ่านเว็บจะค่อนข้างยากมากเลยทีเดียว แต่ถ้าช่วงที่ไปไม่ตรงกับอะไรที่บอก จองเองได้สบายๆ ตัดผ่านบัตรได้ ไม่มีปัญหา
จองผ่านเอเจนซี่ ราคาแต่ละบริษัทไม่เท่ากัน ต้องตรวจสอบกันอีกทีนะ
จองผ่าน Klook แต่อันนี้จะเป็นทัวร์กลุ่มเล็กๆ รวมตั๋วเข้าพระราชวัง >> ทัวร์พระราชวังต้องห้าม ใครชอบฟังเรื่องประวัติศาสตร์ทัวร์นี้ค่อนข้างคุ้มเลยนะ รวมค่าเข้า รวมค่าไกด์ มี Audio ให้ ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง
วิธีนี้คือค่อนข้างเสี่ยง แต่เห็นว่ามีคนใช้วิธีนี้ก็ได้เหมือนกัน คือ Walk in ไปซื้อที่ด้านหน้าพระราชวังเลยค่ะ เท่าที่หามาล่าสุดคือสามารถไปซื้อที่หน้าทางเข้าได้ แต่ก่อนหน้านี้คือไม่ได้ ข้อนี้ถ้าใครจะไปอาจจะต้องเช็คข้อมูลล่าสุด ณ วันนั้นๆ อีกทีนะ
เวลาในการเข้าชมจะมีให้เลือก 2 ช่วงเวลาคือ เช้า และ บ่าย
• เช้า : 08:30-12.00 น.
• บ่าย : 11.00-16.00 น.
เวลาเปิดปิด และราคา
ราคาจะขึ้นอยู่กับช่วงเวลา
• High Season เดือนเม.ย. - ต.ค. ราคา 60 หยวน
• Low Season เดือนพ.ย. - มี.ค. ราคา 40 หยวน
เวลาเปิดปิดของพระราชวังต้องห้าม
• High Season เวลา 08.30 ` 17.00 น.
• Low Season เวลา 08.30 ` 16.30 น.
พระราชวังต้องห้าม จำกัดการเข้าชมเพียงวันละ 40,000 คนเท่านั้น
The Forbidden City
พระราชวังต้องห้าม / กู้กง
พระราชวังต้องห้าม มีขนาดใหญ่มาก แบบมากกกก ถ้าจะเดินให้ทั่วน่าจะต้องใช้เวลาเป็นวัน แต่ถ้าใครมีเวลาน้อย เราจะพาไปดูจุดหลักๆ ที่สำคัญกัน เกริ่นก่อนว่าตัวพระราชวังจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ เขตพระราชฐานชั้นนอก และเขตพระราชฐานชั้นใน
ในรีวิวนี้เราจะพูดถึงเฉพาะพระตำหนักหลักๆ ที่อยู่ตรงกลางนะ เราไม่ได้เดินเล่นโซนด้านข้างเลย เพราะรีบจะรีบไปสวนจิ่งซานก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ><
เขตพระราชฐานชั้นนอก
• พระตำหนักไท่เหอ
• พระตำหนักจงเหอ
• พระตำหนักเป่าเหอ
เขตพระราชฐานชั้นใน
• พระตำหนักเฉียนชิง
• พระตำหนักเจียวไถ่
• พระตำหนักคุนหนิง
สำหรับการเที่ยวชมพระราชวัง เราจะต้องเข้าที่ประตูอู่ หรือ Meridian Gate ทางทิศใต้เท่านั้น ประตูอู่ ถือเป็นประตูที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาประตูทั้งหมดของพระราชวังต้องห้าม คือมีความสูง ~37.95 เมตร สูงมากกกก
เมื่อเดินผ่านประตูอู่ หรือ Meridian Gate เข้ามาเราจะเจอกับลานกว้างขนาดใหญ่ที่มีแม่น้ำไหลผ่าน แม่น้ำนี้มีชื่อว่า Golden Water River และมีสะพานหินอ่อนสีขาวสำหรับข้ามแม่น้ำทั้งหมด 5 สะพานด้วยกัน แม่น้ำที่อยู่ด้านในนี้ถูกขุดขึ้นเพื่อป้องกันไฟไหม้ และน้ำท่วมพระราชวัง เนื่องจากอาคารในพระราชวังต้องห้ามส่วนใหญ่สร้างด้วยไม้ และอีกทางหนึ่งในฤดูฝน ช่วงเดือนมิถุนายน - กันยายน ที่ปักกิ่งจะมีฝนตกหนัก แม่น้ำนี้ก็ช่วยในเรื่องการระบายน้ำด้วย
เมื่อเดินผ่านประตูไท่เหอมาแล้ว จะเจอลานกว้างอีกหนึ่งลาน และพระตำหนักไท่เหอ ที่ตั้งเด่นอยู่บนฐานหินอ่อน 3 ชั้น มีรั้วหินหยกสีขาวที่แกะสลักเป็นลายเมฆ มังกร และหงส์ พระตำหนักไท่เหอนี่เราขอยกให้เป็นพระเอกของพระราชวังนี้เลย ตำหนักนี้จะเป็นพระที่นั่งที่ใหญ่ที่สุดในพระราชวังต้องห้าม และเป็นจุดศูนย์กลางของพระราชวัง ตัวอาคารจะสร้างจากไม้ ถือเป็นหนึ่งในอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน หลังคาของอาคารเป็นกระเบื้องเคลือบสีเหลืองซึ่งสื่อถึงฮ่องเต้ มีรูปปั้นเรียงกันบนหลังคา 10 ตัว รูปปั้นนี้เปรียบเป็นสถานะของอาคาร ถ้าเป็นอาคารรองลงมาอาจจะมีเพียง 3 หรือ 5 ตัว แต่ตำหนักนี้มีถึง 10 ตัว และเป็นเพียงตำหนักเดียวในจีนที่มีรูปปั้นถึง 10 ตัว ตำหนักนี้จึงเป็นเอกลักษณ์ของพระราชวังต้องห้าม ภายในตำหนักจะเป็นพระที่นั่งบัลลังก์มังกร เป็นที่นั่งของจักรพรรดิในงานราชพิธี
ส่วนลานด้านหน้าพระที่นั่งจะมีรูปปั้นเต่าและนกกระเรียนตั้งอยู่ อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ หมายถึงการมีอายุที่ยืนยาวของจักรพรรดิ และความยั่งยืนของประเทศ และยังมีนาฬิกาแดด ที่ใช้สำหรับบอกเวลา ที่มาตั้งอยู่ในวังก็สื่อได้ถึงอำนาจสูงสุดของจักรพรรดิ ที่จะเป็นผู้กำหนดเวลาให้กับคนทั่วประเทศ
บันไดทางขึ้นไปยังตำหนัก เป็นบันไดพระราชพิธี คือเป็นเส้นทางเดินของฮ่องเต้ ไม่อนุญาตให้คนอื่นเดิน (ปัจจุบันกั้นไม่ให้คนเดินเช่นกัน) ตัวบันไดแกะสลักนูนต่ำเป็นรูปมังกร 9 ตัวจากหินชิ้นเดียว และเป็นการแกะสลักหินขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจีน
และบนฐานหินอ่อน 3 ชั้นนี้ นอกจากตำหนักไท่เหอแล้ว ยังมีพระตำหนักจงเหอ ที่ใช้เป็นที่พักผ่อนประทับชั่วคราวของจักรพรรดิ ก่อนออกไปประกอบพิธีที่ตำหนักไท่เหอ และพระตำหนักเป่าเหอ ซึ่งจะใช้เป็นที่สอบจอหงวน หรือสอบเข้ารับราชการ
ถัดจากโซนนี้เราจะเข้าสู่เขตพระราชฐานชั้นในกันแล้ว ในเขตพระราชฐานชั้นในจะมี 3 พระที่นั่งหลักๆ ด้วยกัน ก็คือ พระตำหนักเฉียนชิง พระตำหนักเจียวไถ่ และพระตำหนักคุนหนิง ซึ่งตำหนักเฉียนชิงนี้จะเป็นที่ประทับหลักของจักรพรรดิ พระที่นั่งคุนหนิง จะเป็นที่ประทับของจักรพรรดินี และเป็นที่บูชาฟ้าดิน ส่วนที่อยู่ตรงกลางระหว่าง 2 ตำหนักนี้คือ พระตำหนักเจียวไถ่ ซึ่งจะเป็นที่เก็บตราประทับหลวงในสมัยราชวงศ์ชิง
ใกล้จะสุดทางแล้วทุกคน ถัดจากเขตพระราชฐานชั้นใน ก็จะเป็นอุทยานหลวง (Impeiral Garden) เดินทะลุอุทยานหลวงไปก็จะถึงทางออกที่ประตูเฉินอู่ หรือประตูทางทิศเหนือ
ตามแพลน เราจะออกที่ประตูเฉินอู่ เพื่อเดินขึ้นไปยังเขาจิ่งซาน ชมพระราชวังต้องห้ามในมุมสูง เมื่อออกจากประตูเฉินอู่มา จะต้องเดินข้ามถนนไปนะ แล้วก็ไปต่อแถวจ่ายค่าเข้าสวนคนละ 2 หยวน
สำหรับเราพระราชวังต้องห้าม ถือเป็น Landmark ของกรุงปักกิ่งเลยนะ มันเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มาก แล้วในแต่ละวันเค้าจะมีการจำกัดคนเข้าเพียง 40,000 คนเท่านั้น ถ้าใครอยากมาเที่ยวชมที่นี่ แนะนำให้จองล่วงหน้ามาก่อนนะ มาดูความยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรมจีน ความอลังการของการก่อสร้าง รวมถึงศิลปะวัฒนธรรมต่างๆ
พื้นที่โดยรอบของพระราชวังต้องห้าม
บริเวณพระราชวัง ไม่ได้มีแต่วังนะ เนื่องจากตอนนี้เค้าเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยี่ยมชม ภายในยังมีร้านอาหาร มีเครื่องดื่มขาย แต่เราหาไม่เจอ 555 น่าจะซ่อนตัวอยู่ในโซนตำหนักด้านข้างสักจุดนี่แหล่ะ แต่เราไปเจอคาเฟ่ที่ออกจากประตูเฉินอู่ไปแล้ว เลี้ยวซ้าย ไปนั่งพักกินกาแฟกันสักนิดหน่อย ก่อนจะเดินขึ้นเขาที่ Jingshan Park กันต่อ
และก่อนที่จะเข้ามาที่พระราชวัง เราได้ไปเดินถนนที่อยู่ด้านข้างด้วยนะ เป็นถนนที่มีร้านขายของ ขายอาหาร มีร้านเช่าชุดจีนหลายร้านเลย ใครอยากใส่ชุดแบบพส.จีน แต่งเต็มมาเดินดูกันได้
ชอบคอนเท้นแบบนี้ ฝากติดตามผลงานของเราช่องทางอื่นๆ ด้วยนะคะ 🥰
Tik tok : https://tiktok.com/@tiewjourney
YouTube : https://youtube.com/c/tiewjourney
Comentarios