เกาะไข่มุก Mikimoto Pearl Island ดูพิพิธภัณฑ์ไข่มุก และโชว์อามะเก็บหอยมุกในทะเล ชมไข่มุกเลี้ยงที่แรกของโลก

tiewjourney
28 เม.ย.
ยาว 2 นาที

อัปเดตเมื่อ 2 พ.ค.

Mikimoto Pearl Island ตั้งอยู่ในอ่าวอิเสะ เมืองโทบะ จังหวัดมิเอะ เป็นสถานที่ที่ โคคิชิ มิกิโมโตะ (Kokichi Mikimoto) ประสบความสำเร็จในการเพาะเลี้ยงไข่มุกเป็นครั้งแรกของโลกในปี 1893 นับเป็นจุดเริ่มต้นของอุตสาหกรรมไข่มุกที่มีชื่อเสียงระดับโลก และเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และกระบวนการเพาะเลี้ยงไข่มุกอย่างละเอียด

Content นี้มีอะไรบ้าง

Introduction : Mikimoto Pearl Island
ความสำคัญของเกาะไข่มุก
ภายในเกาะประกอบด้วยอะไรบ้าง
พิพิธภัณฑ์ Mikimoto Pearl Museum
โชว์อามะซัง (Ama-san Show)
เวลาเปิดปิด / ค่าเข้า
การเดินทาง
ค่าจอดรถ

จองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่น จาก Trip.com ราคาดีที่สุด

Introduction : Mikimoto Pearl Island

เกาะไข่มุกมิคิโมโตะ หรือ Mikimoto Pearl Island ตั้งอยู่ในเมืองโทบะ จังหวัดมิเอะ เป็นเกาะเล็กๆ ในอ่าวอิเสะ ที่ดูจากภายนอกอาจเหมือนเกาะธรรมดา แต่จริงๆ แล้วนี่คือ จุดเริ่มต้นของการปฏิวัติวงการอัญมณีโลก ด้วยการ “เพาะเลี้ยงไข่มุกสำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก”

ผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือ คุณโคคิชิ มิคิโมโตะ (Kokichi Mikimoto) ผู้มีความฝันอยากให้ “ไข่มุก” กลายเป็นของที่ใครๆ ก็สามารถเข้าถึงได้ ไม่ใช่แค่เครื่องประดับสำหรับราชวงศ์หรือคนมีฐานะเท่านั้น

หลังจากทดลองอยู่นานหลายปี เขาก็สามารถ เพาะไข่มุกจากหอยมุก Akoya ได้สำเร็จในปี 1893 ที่บนเกาะเล็กๆ แห่งนี้ จึงกลายเป็นต้นกำเนิดของ “ไข่มุกเลี้ยง” ที่ทำให้ไข่มุกกลายเป็นเครื่องประดับที่แพร่หลายทั่วโลก

ความสำคัญของเกาะไข่มุก

จุดเริ่มต้นของไข่มุกเลี้ยงแห่งแรกของโลกเกาะแห่งนี้ถือเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ของวงการอัญมณีเลยก็ว่าได้ และเป็นสัญลักษณ์ของความพยายามไม่ย่อท้อของคุณมิคิโมโตะ
เชิดชูอาชีพอามะซัง (Ama-san) บนเกาะนี้ยังมีโชว์ “อามะซัง” หรือหญิงนักดำน้ำเก็บหอยมุก ที่เป็นวัฒนธรรมเก่าแก่ของญี่ปุ่น โดยเฉพาะในแถบอิเสะ-ชิมะ ซึ่งแทบจะไม่มีให้เห็นแล้วในปัจจุบัน
ศูนย์กลางการเรียนรู้เกี่ยวกับไข่มุก ที่นี่ไม่ได้มีแค่โชว์เก็บไข่มุกหรือขายไข่มุกอย่างเดียว แต่เกาะนี้ยังเป็นแหล่งความรู้ ทั้งด้านวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และศิลปะที่เกี่ยวข้องกับไข่มุก ตั้งแต่กระบวนการเพาะเลี้ยง ไปจนถึงการทำเป็นเครื่องประดับ
อนุสรณ์แห่งความมุ่งมั่น บนเกาะมี “Kokichi Mikimoto Memorial Hall” ที่เล่าเรื่องราวชีวิตของคุณมิคิโมโตะอย่างน่าประทับใจ ทั้งอุปสรรค ความฝัน และแนวคิดของเขาที่ว่า
“ฉันอยากจะเติมเต็มความงามของผู้หญิงด้วยไข่มุกที่ดีที่สุดเท่าที่มนุษย์จะสามารถผลิตได้”

ภายในเกาะประกอบด้วยอะไรบ้าง

พิพิธภัณฑ์ไข่มุก (Pearl Museum) จัดแสดงกระบวนการเพาะเลี้ยงไข่มุกตั้งแต่ต้นจนจบ พร้อมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับไข่มุก และเครื่องประดับที่ทำจากไข่มุก
โชว์ดำน้ำของอามะซัง (Ama Divers Show) การแสดงการดำน้ำเก็บหอยมุกโดยหญิงดำน้ำแบบดั้งเดิม หรือ "อามะซัง" ซึ่งเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นที่หาชมได้ยาก
หอรำลึกโคคิชิ มิกิโมโตะ (Mikimoto Kokichi Memorial Hall) นำเสนอเรื่องราวชีวิตและผลงานของผู้ก่อตั้งการเพาะเลี้ยงไข่มุก ผ่านภาพถ่ายและวัตถุต่างๆ
Pearl Plaza ร้านจำหน่ายเครื่องประดับไข่มุกคุณภาพสูง และร้านอาหารที่นั่งชมวิวอ่าวโทบะได้

พิพิธภัณฑ์ Mikimoto Pearl Museum

เกาะไข่มุก Mikimoto ไม่ได้มีแค่โชว์ดำน้ำหรือร้านขายไข่มุกเท่านั้น แต่ยังมี พิพิธภัณฑ์ไข่มุก (Mikimoto Pearl Museum) ที่ขอบอกเลยว่าดีมากๆ เป็นพื้นที่จัดแสดงขนาดใหญ่ที่ทั้งให้ความรู้ และมีงานจัดแสดงสวยงามระดับโลก

ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะแบ่งออกเป็นโซนๆ มีทั้งเนื้อหาวิชาการที่เล่าเรื่องไข่มุกแบบเข้าใจง่าย และมีไฮไลท์น่าสนใจให้เดินชมเพลินๆ เริ่มจาก

📚 1. โซนประวัติและวิวัฒนาการของไข่มุก

เล่าเรื่องการค้นพบไข่มุกในธรรมชาติ
อธิบายความแตกต่างของไข่มุกธรรมชาติกับไข่มุกเลี้ยง
บอกเล่าเส้นทางชีวิตของ โคคิชิ มิคิโมโตะ ตั้งแต่การทดลองล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งประสบความสำเร็จในการเพาะไข่มุกได้
มีภาพถ่ายเก่าๆ อุปกรณ์ที่ใช้ในยุคแรก และเอกสารทางประวัติศาสตร์โชว์ด้วย

🧬 2. โซนการเพาะเลี้ยงไข่มุก

อธิบายตั้งแต่ขั้นตอนเลี้ยงหอยมุกในน้ำ ทำนายอายุของไข่มุก การผ่าตัดฝังนิวเคลียสลงไปในหอย ฯลฯ
มีโมเดลแสดงกระบวนการทำงานอย่างละเอียด จุดนี้ทำให้เราเข้าใจเลยว่า กว่าจะได้ไข่มุกสวยๆ สักเม็ด ใช้ทั้งเวลา ความพยายาม และความพิถีพิถันขนาดไหน

💍 3. โซนจัดแสดงเครื่องประดับไข่มุก

จัดแสดงผลงานไข่มุกระดับโลกที่ทั้งสวยและอลังการมาก เช่น
- มงกุฎไข่มุก
- เสื้อคลุมและของตกแต่งที่ประดับด้วยไข่มุกแท้
- งานออกแบบเครื่องประดับที่สั่งทำพิเศษในยุคต่างๆ
มีการเล่าเรื่องเบื้องหลังการสร้างผลงานแต่ละชิ้น เช่น มงกุฎที่ใช้เวลาหลายปีในการเก็บไข่มุกเม็ดที่มีสีและขนาดสมบูรณ์ที่สุดมาร้อยเรียงเข้าด้วยกัน

🕊️ 4. Mikimoto Memorial Hall

ห้องจัดแสดงที่อุทิศให้กับ “โคคิชิ มิคิโมโตะ”
มีรูปปั้นจำลอง ห้องทำงานจริงในอดีต และข้าวของเครื่องใช้ของเขา
มีข้อความสร้างแรงบันดาลใจจากเขา เช่น “ฉันจะอุทิศทั้งชีวิตเพื่อผลิตไข่มุกที่ดีที่สุดในโลก”

🧜‍♀️ โชว์อามะซัง (Ama-san Show) ที่ Mikimoto Pearl Island

หนึ่งในไฮไลท์ที่ห้ามพลาดบนเกาะไข่มุก ก็คือ โชว์การดำน้ำของ "อามะ"

"อามะ" คือหญิงสาวนักดำน้ำโบราณในญี่ปุ่น มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี มีความสามารถพิเศษในการดำน้ำแบบไม่ใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจ (ไม่มีถังออกซิเจน) เพื่อเก็บหอยมุกและของล้ำค่าต่างๆ ในทะเล ที่เกาะ Mikimoto เป็นหนึ่งในไม่กี่ที่ที่ยังรักษาประเพณีนี้เอาไว้ และเปิดให้คนทั่วไปได้ชมใกล้ๆ

🎭 สิ่งที่จะได้เห็นในโชว์

อามะซังสวมชุดดำน้ำขาวแบบดั้งเดิม เรียกว่า Isogi
สวมผ้าคลุมหัวสีขาว และมีอุปกรณ์ดำน้ำแบบเรียบง่าย
เหล่าอามะจะโชว์การดำน้ำลงไปเก็บหอยมุกกลางทะเล
เสียง "อิซึบูเอะ" หรือเสียงผิวปากพิเศษตอนที่อามะซังโผล่ขึ้นจากน้ำ เป็นเทคนิคเฉพาะตัวเพื่อควบคุมลมหายใจ
มีช่วงทักทายและโบกมือให้คนดูด้วย น่ารักมาก
ระหว่างโชว์ อามะซังจะสื่อสารด้วยภาษากาย ไม่มีบทพูด ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องภาษาก็สนุกได้เต็มที่

Ama san diving into the ocean — เหล่าอามะ จะนั่งเรือมา แล้วลงน้ำไปเก็บหอยมุก

Ama san showing oyster — โชว์ Ama เก็บหอยมุก

ama san diving into the ocean for oyster

📅 ตารางโชว์

วันธรรมดา: โชว์วันละ 5 รอบ (เช้า - เย็น)
วันเสาร์อาทิตย์/วันหยุด: มีรอบเพิ่มบ้างในบางช่วง

เวลาเปิด-ปิด / ค่าเข้า

💰 ค่าเข้าชม (อัปเดตปี 2025)

ผู้ใหญ่ : 1,650 เยน
เด็ก : 820 เยน
เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี: เข้าฟรี

การเดินทาง

เริ่มต้นจากโอซาก้า
- เช่ารถ : จะใช้เวลาในการชับรถประมาณ 3 ชั่วโมง (แนะนำสำหรับคนอยากเที่ยวแบบยืดหยุ่น แวะจุดชมวิวระหว่างทางได้)
จองรถเช่ากับ Tocoo! Rent a Car

กรอกโค้ดนี้ 14OJIT

(รับส่วนลดอีก 1,000 เยน เมื่อจองรถ 10,000 เยนขึ้นไป)

*โค้ดนี้ใช้จองก่อน 30 กันยายน 2025 แต่สามารถจองรถได้ถึงกุมภาพันธ์ 2026

รถไฟ : นั่งรถไฟ JR จากโอซาก้า หรือ เกียวโต → สถานี Toba (鳥羽駅) ซื้อตั๋ว JR Ise-Kumano-Wakayama Area Pass ใช้บัตรนี้ครอบคลุมเส้นทางมาได้เลย ประหยัดด้วย เดินทางต่อเนื่องได้ 5 วัน ลงที่สถานี Toba (鳥羽駅) สถานีนี้คือสถานีหลักที่สุด ใกล้เกาะไข่มุกที่สุด พอถึงแล้ว เดินออกจากสถานี แค่ประมาณ 5 นาที ก็ถึงทางเข้า Mikimoto Pearl Island เลย มีป้ายบอกชัดเจน เดินตามป้าย "ミキモト真珠島" ได้สบายๆ ไม่หลง