top of page

พิกัดเที่ยวมิเอะ (Mie) 2 วัน 1 คืน ไปเที่ยวได้กี่ที่ ไปไหนได้บ้าง

  • รูปภาพนักเขียน: tiewjourney
    tiewjourney
  • 16 เม.ย.
  • ยาว 3 นาที

อัปเดตเมื่อ 2 พ.ค.




Mie (มิเอะ) เมืองเล็กๆ ที่อาจไม่อยู่ในลิสต์แรกของใครหลายคน แต่กลับเก็บทุกอย่างที่ “ญี่ปุ่นแท้ๆ” เอาไว้ครบ ทั้งศาลเจ้าอิเสะอันศักดิ์สิทธิ์ที่คนญี่ปุ่นเรียกว่าเป็น “ศูนย์รวมจิตวิญญาณของชาติ” ถนนเก่าโอฮาไรมาจิที่เดินแล้วเหมือนได้ย้อนเวลาไปยุคเอโดะ ไปจนถึงวิวริมทะเลสุดโรแมนติกของ “หินแต่งงาน” และเสน่ห์ของ “อามะซัง” นักดำน้ำหญิงที่มีอยู่แค่ไม่กี่แห่งในญี่ปุ่น ที่นี่ไม่ใช่เมืองที่เร่งรีบ แต่มิเอะจะค่อยๆ พาเราตกหลุมรัก ด้วยจังหวะชีวิตที่เนิบช้า เรียบง่าย แต่ลึกซึ้ง

Content นี้มีอะไรบ้าง







Introduction : Mie

ถ้าพูดถึงญี่ปุ่น หลายคนอาจจะนึกถึงเมืองใหญ่ๆ อย่างโตเกียว โอซาก้า เกียวโต หรือฮอกไกโด แต่ถ้าใครอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศ ไปสัมผัสญี่ปุ่นในมุมที่เงียบกว่า ผู้คนไม่พลุกพล่าน ได้เห็นวัฒนธรรมท้องถิ่น และธรรมชาติที่ยังคงความบริสุทธิ์ “จังหวัดมิเอะ” (Mie) คือจุดหมายที่น่าสนใจมาก


'มิเอะ' ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันไซ ติดกับจังหวัดดัง อย่างเกียวโต นารา และวากายามะ แม้จะไม่ได้โด่งดังในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติเท่าเมืองรอบข้าง แต่ก็เป็นจุดหมายที่คนญี่ปุ่นนิยมมาเที่ยวกันเอง เพราะที่นี่มีครบทั้งวัดศักดิ์สิทธิ์ชื่อดัง อาหารทะเลสดใหม่ วิวธรรมชาติสุดอลังการ รวมถึงหมู่บ้านเก่าแก่และแหล่งออนเซ็นบรรยากาศดี


หนึ่งในไฮไลต์ของมิเอะ คือ “ศาลเจ้าอิเสะ” (Ise Jingu) ที่คนญี่ปุ่นยกให้เป็นศาลเจ้าที่มีความศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในประเทศ ส่วนใครที่ชอบธรรมชาติและทะเล ก็จะได้สัมผัสชายฝั่งสวย ๆ อย่างเมืองโทบะและชิมะ ที่ขึ้นชื่อเรื่องไข่มุก และวัฒนธรรมของหญิงนักดำน้ำ “อามะซัง” ซึ่งหาชมได้ยากมากในยุคนี้


เส้นทางเที่ยวมิเอะในแบบ 2 วัน 1 คืน ที่เราจะพาไปในบทความนี้ จะเน้นการเดินทางง่าย เดินทางจากโอซาก้าหรือเกียวโตก็สะดวก เหมาะสำหรับคนที่อยากเพิ่มสีสันให้ทริปญี่ปุ่นรอบนี้ ด้วยการหลีกหนีความวุ่นวาย แล้วมาสัมผัสญี่ปุ่นแท้ๆ ในแบบที่น้อยคนจะได้เห็น



การเดินทาง


  1. เช่ารถขับ


สำหรับทริปนี้เราเลือกเดินทางจากโอซาก้ามายังจังหวัดมิเอะด้วยการ เช่ารถขับเอง เพราะอยากได้ความยืดหยุ่นและมีแผนจะแวะจุดเที่ยวหลายจุดระหว่างทาง ซึ่งการขับรถเที่ยวในญี่ปุ่นนั้นง่ายกว่าที่คิดเยอะ ถนนที่นี่ค่อนข้างดี ป้ายบอกทางชัดเจน และระบบนำทาง GPS ก็ใช้งานสะดวกมาก


เราเช่ารถผ่านเว็บไซต์ Tocoo! Rent a Car ซึ่งเป็นเว็บไซต์จองรถเช่าของญี่ปุ่นที่รองรับภาษาไทย หน้าเว็บใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน มีรถหลายประเภทให้เลือกตามงบและจำนวนคน แถมยังมีตัวเลือกแพ็คเกจที่รวมประกันแบบครอบคลุม และอุปกรณ์เสริมอย่าง Wi-Fi, ETC Card, GPS เป็นภาษาอังกฤษด้วย ใครที่ไม่เคยขับรถในญี่ปุ่นมาก่อนก็ไม่ต้องกังวล เพราะทุกขั้นตอนชัดเจน และมีทีมซัพพอร์ต


ระยะทางจากโอซาก้ามาเมืองอิเสะ (Ise) ใช้เวลาขับรถประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งถึง 3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับจุดเริ่มต้นและการจราจร เส้นทางขับผ่านวิวธรรมชาติสวย ๆ มีจุดพักรถให้แวะตลอดทาง ใครที่ชอบเดินทางแบบชิลล์ ไม่รีบ ไม่ต้องยกกระเป๋าขึ้นลงหลายรอบ การขับรถเป็นอีกตัวเลือกที่น่าใช้มาก



(รับส่วนลดอีก 1,000 เยน เมื่อจองรถ 10,000 เยนขึ้นไป)

*โค้ดนี้ใช้จองก่อน 30 กันยายน 2025 แต่สามารถจองรถได้ถึงกุมภาพันธ์ 2026


  1. เดินทางด้วยรถไฟ

ถ้าใครไม่อยากขับรถเอง การเดินทางจากโอซาก้ามายังมิเอะด้วยรถไฟก็ง่ายและสะดวกมาก โดยเฉพาะถ้าใช้บัตรเดินทางแบบ JR Ise-Kumano-Wakayama Area Pass ซึ่งสามารถซื้อผ่าน Klook ได้เลย


ข้อดีของบัตร JR Ise-Kumano-Wakayama Area Pass


  • ใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งในระยะเวลา 5 วันติดกัน

  • ครอบคลุมเส้นทางรถไฟ JR หลายสายในแถบคันไซตอนล่าง รวมถึงรถไฟจาก โอซาก้า/เกียวโต/นาโกย่า ไปยัง อิเสะ โทบะ ชิมะ คุมาโนะ และวาคายามะ

  • คุ้มมากสำหรับคนที่วางแผนเที่ยวหลายเมืองในทริปเดียว

  • ไม่ต้องต่อคิวซื้อบัตรหน้างาน แค่แสดงวอยเชอร์และรับบัตรจริงที่สถานีใหญ่ ๆ


โดยปกติแล้วจาก Osaka Station ไปยังสถานี Ise-shi จะใช้เวลาประมาณ 2.5 – 3 ชั่วโมง มีทั้งรถด่วนพิเศษ (Limited Express) และรถไฟธรรมดา วิวระหว่างทางก็สวยไปอีกแบบ เหมาะสำหรับคนที่อยากนั่งชิลล์ ๆ ไปดูวิวสองข้างทาง


*จองขั้นต่ำ 1,500 บาท ส่วนลดสูงสุด 300 บาท





แจกแพลนทริปเที่ยวมิเอะ 2 วัน 1 คืน

ไปไหนได้บ้าง


Day 1 วันแรกที่มิเอะ


เช้านี้เราเริ่มต้นออกเดินทางจาก โอซาก้า โดยไปรับรถเช่าที่ ตึก OCAT (Osaka City Air Terminal) ซึ่งอยู่ติดกับสถานี JR Namba สะดวกมาก เพราะตึกนี้เชื่อมต่อกับระบบรถไฟหลายสาย และยังเป็นจุดรับ-คืนรถของบริษัทเช่ารถหลายเจ้า เรารับรถช่วงประมาณ 10 โมงเช้า ใช้เวลาตรวจเอกสารและรับรถไม่นาน จากนั้นก็ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่จังหวัดมิเอะ โดยเส้นทางที่ใช้คือขับผ่านทางด่วน Hanshin Expressway และ Ise Expressway ระยะทางประมาณ 160 กิโลเมตร ใช้เวลาขับราว ๆ 2 ชั่วโมงครึ่งถึง 3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับจราจร ระหว่างทางมีจุดพักรถ (Service Area) ให้แวะพักยืดเส้นยืดสาย เข้าห้องน้ำ หรือซื้อของกินง่าย ๆ แบบญี่ปุ่นสไตล์ ใครที่ขับรถในญี่ปุ่นครั้งแรกจะประทับใจกับความสะอาดและเป็นระเบียบของจุดพักเหล่านี้แน่นอน


จุดหมายแรก: ศาลเจ้าอิเสะ (Ise Jingu) ศูนย์รวมจิตใจของชาวญี่ปุ่น

เรามาถึง เมืองอิเสะ (Ise) ช่วงประมาณ บ่าย 3 โมง จุดหมายแรกคือการไปเยือนสถานที่ที่ชาวญี่ปุ่นถือว่า “ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด” แห่งหนึ่งในประเทศ นั่นคือ ศาลเจ้าอิเสะ หรือ Ise Jingu (伊勢神宮)

ศาลเจ้านี้มีประวัติยาวนานกว่า 2,000 ปี และถูกยกให้เป็น “ศาลเจ้าประจำราชวงศ์” เพราะเป็นที่ประดิษฐานของ เทพีอามาเทราสึ โอมิคามิ (Amaterasu Omikami) เทพแห่งดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นเทพเจ้าหลักของศาสนาชินโต และเป็นเทพผู้บรรพบุรุษของจักรพรรดิญี่ปุ่น

ภายในศาลเจ้าประกอบด้วยสองส่วนหลักๆ คือ


  • Naiku (Inner Shrine) – ส่วนหลักและศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าไม้โบราณ ต้องเดินเข้าไปลึกแต่บรรยากาศสงบมาก

  • Geku (Outer Shrine) – อยู่ห่างออกมาประมาณ 6 กิโลเมตร มีความเงียบขรึมและมีพลังงานที่นิ่งมากเช่นกัน


ด้านหน้าทางเข้าศาลเจ้า Ise Jingu (Naiku)
ด้านหน้าทางเข้าศาลเจ้า Ise Jingu (Naiku)

สะพานข้ามไปยังศาลเจ้า
สะพานข้ามไปยังศาลเจ้า

เราเลือกไปที่ Naiku ก่อน ซึ่งเป็นศาลเจ้าหลัก บริเวณรอบ ๆ เต็มไปด้วยต้นไม้อายุหลายร้อยปี มีแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ให้ล้างมือก่อนเข้าสักการะ พอเดินเข้ามาใกล้ตัวศาลเจ้าจะรู้สึกถึงความสงบลึก แบบที่อธิบายเป็นคำพูดยาก แต่สัมผัสได้ด้วยใจ


เวลาเปิด-ปิดของศาลเจ้า Ise Jingu:เปิดประมาณ 5:00 – 17:00 น. (แต่เวลาปิดจะเปลี่ยนตามฤดูกาลเล็กน้อย)




เราใช้เวลาอยู่ภายในศาลเจ้าจนถึง 5 โมงเย็น ซึ่งเป็นเวลาปิดพอดี ตอนแรกตั้งใจจะแวะเดินเล่นที่ถนน Oharai-machi ซึ่งอยู่ติดกับทางเข้า Naiku แต่ถนนร้านค้าปิดประมาณเวลาเดียวกัน ทำให้เราเปลี่ยนแผนและเก็บจุดนี้ไว้มาเดินเล่นแบบเต็มๆ ในวันรุ่งขึ้นแทน



มื้อเย็นแบบเรียบง่าย ก่อนพักผ่อนที่โรงแรมกลางเมือง

หลังออกจากศาลเจ้า เราแวะหาร้านอาหารท้องถิ่นใกล้ที่พักเพื่อเติมพลัง โดยในย่านสถานี Iseshi Station มีร้านอาหารญี่ปุ่นพื้นเมืองอยู่หลายแห่ง ทั้งแบบซูชิ อุด้ง และร้านข้าวหน้าปลาดิบ อาหารทะเลของมิเอะขึ้นชื่อเรื่องความสดใหม่ โดยเฉพาะหอยนางรม ปลาไหล และปลาทะเลหลากชนิด


คืนนี้เราพักกันที่โรงแรม Toyoko Inn Iseshi Station ที่พักสไตล์ Business Hotel ขนาดกะทัดรัด สะอาด และอยู่ในทำเลดี เดินจากสถานีรถไฟไม่กี่นาที ที่สำคัญคือมี ที่จอดรถฟรีสำหรับผู้เข้าพัก เหมาะกับคนที่ขับรถเที่ยวแบบเรามาก


  • ราคาห้องพักประมาณ 2,000 กว่าบาท/คืน (ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา)

  • มีอาหารเช้าแบบง่าย ๆ ให้บริการฟรี

  • รอบ ๆ โรงแรมมีร้านสะดวกซื้อ คาเฟ่ และร้านอาหารให้เลือกเพียบ


คืนนี้เราพักผ่อนกันเร็วหน่อย เพราะพรุ่งนี้ยังมีแพลนเที่ยวต่อในมิเอะแบบจุกๆ



Day 2 วันที่สอง เที่ยวแบบสับ


หลังจากทานอาหารเช้าที่โรงแรมและเช็คเอาท์เรียบร้อย เราเริ่มต้นวันด้วยการขับรถไปยังจุดหมายแรกของวันนี้

ด้านหน้าทางเข้า หินแต่งงาน
ด้านหน้าทางเข้า หินแต่งงาน

จุดหมายแรก : หินแต่งงาน (Meoto Iwa)

จากโรงแรม Toyoko Inn Iseshi Station ขับรถประมาณ 10 นาที ก็ถึง หินแต่งงาน (Meoto Iwa)

Meoto Iwa หรือที่รู้จักกันในชื่อ "หินแต่งงาน" เป็นหินสองก้อนที่ตั้งอยู่ในทะเลและเชื่อมต่อกันด้วยเชือกศักดิ์สิทธิ์ (shimenawa) สื่อถึงความสัมพันธ์ของสามีภรรยาและความสามัคคี


จุดชำระล้างก่อนเข้าศาลเจ้า
จุดชำระล้างก่อนเข้าศาลเจ้า

(ซ้าย) หินสามี (ขวา) หินภรรยา มีเชือกศักดิ์สิทธิ์อยู่ด้านบน
(ซ้าย) หินสามี (ขวา) หินภรรยา มีเชือกศักดิ์สิทธิ์อยู่ด้านบน




จุดหมายต่อไป : เกาะไข่มุกมิกิโมโตะ (Mikimoto Pearl Island)

จากหินแต่งงาน ขับรถต่อประมาณ 25 นาที ไปยัง เกาะไข่มุกมิกิโมโตะ (Mikimoto Pearl Island)

บนเกาะนี้ คุณจะได้ชมการแสดงของ อามะซัง (Ama) หญิงนักดำน้ำที่สาธิตการดำน้ำเก็บหอยมุกแบบดั้งเดิม การแสดงมีหลายรอบต่อวัน ตั้งแต่เวลา 9:20 น. ถึง 16:20 น.


เรือที่พาอามะซังมา
เรือที่พาอามะซังมา

เริ่มลงน้ำ เพื่อเก็บหอยมุก
เริ่มลงน้ำ เพื่อเก็บหอยมุก






กลับมาเดินเล่นที่ถนนโอฮาไรมาจิ (Oharai-machi)

หลังจากชมการแสดงที่เกาะไข่มุก เรากลับมาเดินเล่นที่ ถนนโอฮาไรมาจิ (Oharai-machi) ซึ่งเมื่อวานเราไม่ได้มีโอกาสเดินชม

Oharai-machi เป็นถนนสายประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่หน้าทางเข้าศาลเจ้าอิเสะ (Ise Jingu) เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารที่มีสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม


ถนนคนเดิน Oharai Machi
ถนนคนเดิน Oharai Machi




ขนม Akafuku Mochi โมจิถั่วแดง ขนมขึ้นชื่อของเมืองมิเอะ
ขนม Akafuku Mochi โมจิถั่วแดง ขนมขึ้นชื่อของเมืองมิเอะ

ซื้อกลับบ้านได้ด้วยนะ
ซื้อกลับบ้านได้ด้วยนะ


เนื้อมัตสึซากะย่าง
เนื้อมัตสึซากะย่าง

ซาลาเปาไส้เนื้อมัตสึซากะ
ซาลาเปาไส้เนื้อมัตสึซากะ

หอยนางรมนึ่ง
หอยนางรมนึ่ง

สตรอว์เบอร์รี่เสียบไม้ น่ารัก
สตรอว์เบอร์รี่เสียบไม้ น่ารัก

ไอศครีมชาเขียวอิเสะ
ไอศครีมชาเขียวอิเสะ


บรรยากาศถนนคนเดิน Oharai machi
บรรยากาศถนนคนเดิน Oharai machi


ปิดท้ายทริป: ขับรถกลับโอซาก้า

หลังจากเดินเล่นและทานของอร่อยที่ Oharai-machi แล้ว ก็ได้เวลาขับรถกลับโอซาก้า ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งถึง 3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร


ที่พักแนะนำ


เราพักที่ Toyoko Inn Iseshi Station โรงแรมที่อยู่ใกล้กับสถานี Iseshi เป็นสไตล์ Business Hotel ที่ราคาน่ารัก ห้องพักกว้าง สะอาด มีอาหารเช้าให้ มีที่จอดรถฟรี อันนี้ช่วยเซฟค่าจอดไปได้เยอะเลยนะ แล้วก็อยู่ไม่ไกลจากจุดที่เราจะไปเที่ยว จริงๆ เมืองมิเอะ เป็นเมืองที่ไม่วุ่นวายมาก ขับรถไปไหนก็ใช้เวลาไม่นาน ค่อนข้างสะดวก แล้วที่นี่ถ้าใครเดินทางมาด้วยรถไฟ ก็อยู่ใกล้กับสถานีมาก ถือว่าสะดวกสำหรับคนเดินทางมาเที่ยวจริงๆ




สรุปค่าใช้จ่าย


  • ค่าเช่ารถ : 3,200 บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่นและระยะเวลาเช่า)

  • ค่าน้ำมัน : 760 บาท ขับไปประมาณ 300 กว่ากิโล แต่เช่ารถแบบ e-power มา ช่วยเซฟค่าน้ำมันได้หน่อยนึง

  • ค่าทางด่วน : 1,675 บาท

  • ค่าที่จอดรถ :

    • โรงแรม: ฟรี

    • ศาลเจ้าอิเสะ 500 เยนต่อ 2 ชั่วโมง

    • กินข้าวตอนเย็นวันแรก 400 เยนต่อ 2 ชั่วโมง

    • เกาะไข่มุกมิกิโมโตะ ค่าจอดรถ 600 เยนต่อ 2 ชั่วโมง

    • หน้าศาลเจ้าอิเสะ 600 เยน (จอดเดินเล่นไป 3 ชั่วโมง)

  • ค่าเข้าชมสถานที่ :

    • เกาะไข่มุกมิกิโมโตะ: 1,650 เยน

  • ค่าอาหาร :

    • มื้อเย็นวันแรก 1,300 บาท

    • ของกินถนน Oharai machi 700 บาท

  • ค่าโรงแรม: ประมาณ 2,000 กว่าบาทต่อคืน (ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา)



(รับส่วนลดอีก 1,000 เยน เมื่อจองรถ 10,000 เยนขึ้นไป)

*โค้ดนี้ใช้จองก่อน 30 กันยายน 2025 แต่สามารถจองรถได้ถึงกุมภาพันธ์ 2026





ชอบคอนเท้นแบบนี้ ฝากติดตามผลงานของเราช่องทางอื่นๆ ด้วยนะคะ 🥰

コメント


bottom of page